|
“ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้
และบัญญัติไว้ด้วยดีนั่นแหละ จักเป็นพระศาสดา ของพวกท่านสืบแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไปแล้ว”
พระพุทธเจ้าตรัสบอกพระอานนท์ ก่อนปรินิพพาน |
|
พระพุทธศาสนา กำเนิดจากพระปัญญาตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยพระองค์ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ อาศัยความอุตสาหะพยายามเสาะแสวงหาธรรมเครื่องพ้นทุกข์ จนได้พบความจริงแห่งชีวิต กล่าวคือ อริยสัจสี่ หลังจากนั้น ก็ได้เสด็จออกโปรดเวไนยสัตว์ เพื่อให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์
พระพุทธเจ้า มีพระนามเดิมว่า "สิทธัตถะ" ทรงประสูติ เมื่อวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนวิสาขะ(เดือน ๖) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ
และพระนางสิริมหามายา แห่งนครกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ ทันทีที่ประสูติ ก็ทรงดำเนินได้ ๗ ก้าว โดยเบื้องใต้พระบาทมีดอกบัวผุดขึ้นรองรับ และทรงเปล่งอภิสวาจาว่า "เราเป็นผู้เลิศ เป็นประเสริฐที่สุดในโลก การเกิดของเราครั้งนี้
เป็นครั้งสุดท้าย ภพใหม่ต่อไปไม่มี" หลังจากประสูติได้ ๕ วันก็ได้รับคำพยากรณ์จากพราหมณ์ว่า
ถ้าพระองค์เสด็จอยู่ครองราชสมบัติ จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
ผู้ทรงมีพระบรมเดชานุภาพมาก แต่ถ้าเสด็จออกผนวช จักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาเอกของโลก
ตลอดระยะเวลาของวัยเด็กถึงวัยหนุ่ม พระองค์ถูกปรนเปรอด้วยกามสุขต่าง ๆ เพื่อป้องกันความน้อมใจในการออกบวช
ตามพระประสงค์ของมหาราชผู้เป็นพระบิดา
ถึงกระนั้นก็ไม่อาจต้านทานได้ เมื่อครั้งหนึ่งพระองค์ทรงเสด็จประภาสอุทยาน และได้พบนิมิตแห่งเทวทูต ๔ ได้แก่ คนแก่ คนเจ็บป่วย คนตาย
และนักบวช เพราะทรงเห็นความไม่เที่ยงแห่งชีวิต และประสงค์ที่จะช่วยชาวโลกให้พ้นทุกข์ พระองค์จึงตัดสินพระทัยเสด็จออกบวช ในขณะที่มีพระชนมายุ ๒๙ พรรษา
พระองค์ใช้เวลาศึกษาจากนักปราชญ์หลายสำนักเพื่อมุ่งหวังทางพ้นทุกข์
ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้จะด้วยวิธีการต่าง ๆ จนถึงวิธีการทรมานตนอย่างอุกกฤษ์
ทรงตัดสินพระทัยหันมายึดทางสายกลาง มุ่งมั่นบำเพ็ญเพียรด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เอง
จึงได้ทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ตรัสรู้อริยสัจสี่ (ความจริงอันประเสริฐสี่ประการ)
ขณะที่มีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา รวมระยะเวลา ๖ ปีที่พระองค์ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
จนกระทั่งตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ
หลังจากนั้น พระองค์ก็ทรงนำหลักธรรมที่พระองค์ทรงค้นพบ
สั่งสอนเวไนยสัตว์โดยพิจารณาอุปนิสัยเปรียบด้วยบัว ๔ เหล่า ทรงใช้เวลาประกาศศาสนาทั้งสิ้น ๔๕ พรรษา จนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานเมื่อมีพระชนมายุ ๘๐ พรรษา และได้ตรัสปัจฉิมโอวาท
เพื่อเตือนสติพระสาวกทั้งหลายเป็นครั้งสุดท้ายว่า
“ภิกษุทั้งหลาย! บัดนี้เราขอเตือนพวกท่านให้รู้ว่า สิ่งทั้งหลายในโลก
มีความเสื่อมสลาย เป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำหน้าที่อันเป็นประโยชน์
แก่ตนและคนอื่นให้สำเร็จบริบูรณ์ ด้วย ความไม่ประมาทเถิด”
การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ซึ่งก็คือ “วันวิสาขบูชา”
เรื่องเกี่ยวข้อง :
- สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
- เมืองสำคัญในพุทธประวัติ
- วีดีโอ : สารคดีแห่งศตวรรษ "ตามรอยพระพุทธเจ้า"
|